เมื่อคุณเทรดบน Crypto Futures คุณสามารถเลือกประเภทมาร์จิ้นได้ระหว่าง ไอโซเลทมาร์จิ้น และ ครอสมาร์จิ้น
แต่ละประเภทมีวัตถุประสงค์และระดับการควบคุมความเสี่ยงที่แตกต่างกันสำหรับโพสิชันของคุณ
การเข้าใจวิธีการทำงานของแต่ละประเภทจะช่วยให้คุณเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณได้ดียิ่งขึ้น
ไอโซเลทมาร์จิ้น คืออะไร?
ไอโซเลทมาร์จิ้น ช่วยให้คุณสามารถจำกัดเงินทุนที่นำมาใช้กับแต่ละโพสิชันโดยเฉพาะ
เฉพาะจำนวนมาร์จิ้นที่คุณจัดสรรให้กับโพสิชันนั้น (ผลกระทบของมาร์จิ้น) เท่านั้นที่จะถูกนำมาใช้ และขาดทุนจะถูกจำกัดอยู่แค่ในโพสิชันเดียว
หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทาง โพสิชันอื่น ๆ หรือยอดเงินคงเหลือของคุณจะ ไม่ ได้รับผลกระทบ
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจำกัดความเสี่ยงรายโพสิชัน โดยเฉพาะเมื่อใช้เลเวอเรจสูง
ตัวอย่าง: หากคุณเปิดโพสิชัน $100 โดยใช้เลเวอเรจ 100x ด้วยไอโซเลทมาร์จิ้น
การเคลื่อนไหวของตลาดเพียง 1% ในทิศทางตรงข้ามจะทำให้โพสิชันถูกชำระบัญชีทันที
ครอสมาร์จิ้น คืออะไร?
ครอสมาร์จิ้น จะใช้ยอดเงินทั้งหมดในบัญชีของคุณเพื่อสนับสนุนโพสิชันที่เปิดอยู่
ระบบจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า และสามารถช่วยป้องกันการชำระบัญชีโดยอัตโนมัติ
แพลตฟอร์มจะนำเงินคงเหลือจากบัญชีของคุณมาเสริมโพสิชันที่กำลังขาดทุนโดยอัตโนมัติ
แม้แต่กำไรที่ยังไม่ปิด (Unrealized PnL) จากโพสิชันอื่น ก็สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยป้องกันการชำระบัญชีได้เช่นกัน
ตัวอย่าง: หากคุณมี $1,000 ในบัญชี และเปิดโพสิชัน Bitcoin ขนาด $60,000 ด้วยเลเวอเรจ 100x
ระบบจะใช้เพียงบางส่วนของอิควิตี้เป็นมาร์จิ้นเริ่มต้น หากตลาดสวนทาง ระบบจะนำยอดเงินที่เหลือในบัญชีมาเสริมโพสิชันโดยอัตโนมัติ
ช่วยลดความเสี่ยงในการถูกชำระบัญชี โดยเฉพาะหากตลาดกลับทิศทางในภายหลัง
สูตรคำนวณผลกระทบของมาร์จิ้นคืออะไร?
สูตรนี้ใช้เพื่อประมาณการว่าต้องใช้มาร์จิ้นเท่าไรในการเปิดโพสิชัน:
ผลกระทบของมาร์จิ้น = ขนาดคำสั่งซื้อ / เลเวอเรจ
ตัวอย่าง: หากคุณเปิดโพสิชัน $10,000 โดยใช้เลเวอเรจ 100x
ผลกระทบของมาร์จิ้น = $10,000 / 100 = $100
นั่นหมายความว่า $100 จากมาร์จิ้นของคุณจะถูกใช้ในการเปิดโพสิชัน ส่วนยอดคงเหลือที่เหลือยังสามารถใช้กับการเทรดอื่น หรือทำหน้าที่เป็นกันชนในโหมดครอสมาร์จิ้นได้
ความแตกต่างหลักระหว่าง ไอโซเลทมาร์จิ้น กับ ครอสมาร์จิ้น
คุณสมบัติ | ไอโซเลทมาร์จิ้น | ครอสมาร์จิ้น |
แหล่งที่มาของมาร์จิ้น | เฉพาะโพสิชันนั้น | ใช้ร่วมกันระหว่างทุกโพสิชัน |
การควบคุมความเสี่ยง | สูง – จำกัดการขาดทุนต่อโพสิชัน | ต่ำกว่า – ใช้ยอดคงเหลือทั้งบัญชี |
การปรับมาร์จิ้น | ต้องปรับเอง | ปรับโดยอัตโนมัติ |
เหมาะสำหรับ | การบริหารความเสี่ยงแบบแม่นยำ | การเทรดในตลาดผันผวนที่ต้องการความยืดหยุ่น |
การป้องกันการชำระบัญชี | จำกัด | ยืดหยุ่นมากกว่า |
สรุป
การเลือกใช้ระหว่าง ไอโซเลทมาร์จิ้น และ ครอสมาร์จิ้น ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การเทรดและระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้
ไอโซเลทมาร์จิ้นเหมาะสำหรับการควบคุมโพสิชันแบบรายจุด ในขณะที่ครอสมาร์จิ้นให้ความยืดหยุ่นและป้องกันการชำระบัญชีได้ดีกว่า
PrimeXBT แนะนำให้ใช้ครอสมาร์จิ้น สำหรับประสบการณ์การเทรดที่ปลอดภัยและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น